ไลป์ซิก - บาเยิร์น คู่ปรับคู่ใหม่แห่งวงการบุนเดสลีกา

จากสมาพันธ์ในลีกภูมิภาคระดับดิวิชั่น 5 ที่เลื่อนชั้นขึ้นมาสู่ลีกสูงสุดของเยอรมนีได้อย่างเร็วโดยใช้เวลาเพียงแต่ 7 ปีอย่างเครื่องปรับอากาศเบ ไลป์ซิก พวกเขาสามารถก้าวขึ้นไปเล่นในเวทียูเอฟ่า แชมเปียนส์ลีกชนกับทีมยักษ์ใหญ่ของยุโรป แถมยังเปลี่ยนเป็นคู่ต่อสู้คู่ใหม่กับกลุ่มที่ยิ่งใหญ่ยิ่งใหญ่อย่างพี่เสือ บาเยิร์น มิวนิคไปเป็นระเบียบเรียบร้อยแล้วด้วย ทำให้ไลป์ซิกข์เปลี่ยนเป็นกลุ่มเต็งกลุ่มสำคัญที่ผู้คนจำนวนมากมั่นใจว่าจะสามารถท้าทายชิงบัลลังก์แชมป์บุนเดสลีกาจากบาเยิร์นได้ในช่วงฤดูกาลนี้ เว็บพนันออนไลน์

ในตอนก่อนหน้านี้ เห็นจะมีเพียง “เสือเหลือง” โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์แค่นั้นที่จะเพียงพอประมือกับบาเยิร์นได้ในบุนเดสลีกา แม้กระนั้นมาถึงในช่วงเวลานี้ดูอย่างกับว่าไลป์สิกข์กำลังจะขอเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยอีกครั้งม พรรคพวกวัวกระทิงแดงเพิ่งขึ้นมาเล่นในลีกสูงสุดได้เพียงแต่ 3 ฤดูแค่นั้น แต่ว่าพวกเขากลับสามารถคว้าตั๋วฝ่าศึกบอลยุโรปได้เป็นฤดูลำดับที่สองต่อเนื่องกันแล้ว

และก็ในแมตช์เดย์ 4 ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาซึ่งไลป์ซิกข์เปิดบ้านรับการมาเยี่ยมของบาเยิร์น มิวนิค พวกเขาลงเล่นในฐานะหัวหน้าฝูงที่ชนะรวดอีกทั้ง 3 ครั้งแรกรวมทั้งสามารถต้านความแข็งแกร่งของกลุ่มเสือใต้ได้ด้วยการตามตีเสมอจากลูกจุดลูกโทษในช่วงต่อเวลาพิเศษครึ่งแรก ทำให้ไลป์ซิกยังคงนำเป็นหัวหน้าฝูงถัดไปแล้วก็ยังไม่แพ้คนใดกันในช่วงฤดูกาลนี้

ย้อนกลับไปเมื่อธ.ค.ปี 2016 เมื่อไลป์ซิกจำเป็นต้องยกทัพไปเยี่ยมกลุ่มยักษ์ใหญ่ที่กรุงมิวนิคที่สนามอัลลิอันซ์ อารีน่าเป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นการการประลองในลีกสูงสุดของเยอรมนีเป็นฤดูแรกของพวกเขาด้วย ในตอนนั้นพวกเขาสามารถแบ่ง 1 แต้มจากบาเยิร์นที่กำลังนำเป็นผู้นำฝูงมาได้เสร็จ ไลป์ซิกบุกไปยังกรุงมิวนิคด้วยความเชื่อมั่นและก็มั่นหมายว่าจะสามารถสร้างประวัติศาสตร์ได้เหมือนกันกับที่ไกเซอร์สเลาเทิร์นเคยทำไว้ โน่นเป็นการเลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นในบุนเดสลีกาแล้วครอบครองแชมป์ลีกได้ในฤดูกาลเดียวกัน

หากแม้บาเยิร์นจะเป็นข้างครอบครองแชมป์ไปได้ในช่วงฤดูกาลนั้น แม้กระนั้นการที่เครื่องปรับอากาศเบ ไลป์ซิกสามารถคว้ารองแชมป์ได้ ก็ถือว่าเป็นการส่งสัญญาณบางอย่าง

ส่วนเกมที่ 2 ของฤดูดังที่ได้กล่าวมาแล้วที่ทั้งคู่กลุ่มฟาดหน้าแข้งกันในบ้านของไลป์ซิกข์ พวกพ้องวัวกระทิงแดงสร้างเซอร์ไพรส์ทำประตูขึ้นนำบาเยิร์นไปถึง 3-1 และก็ 4-2 ประตู แม้กระนั้นเสือใต้ก็ไม่ยอมแพ้กล้วยๆทำประตูตามตีเสมอรวมทั้งกลับเอาชนะได้ด้วยสกอร์สุดมัน 5-4 ทั้งๆที่ครอบครองแชมป์ลีกไปเป็นที่แน่ๆแล้ว และก็สกอร์เดียวกันนี้ก็กลับมาหลอกไลป์ซิกข์อีกรอบในเกมเดเอฟเบ โพค้างลฤดูถัดมา แม้กระนั้นคราวนี้เกมจบด้วยการดวลจุดลูกโทษวินิจฉัย ต่อจากนั้นเป็นต้นมาก็เลยเป็นที่รู้กันว่าเมื่อใดลำดับที่สองกลุ่มนี้โคจรมาพบกันเป็นอันจำเป็นต้องเดือดดราม่าอย่างแน่แท้

ความดราม่ายังคงเกิดขึ้นตลอดมาจนกระทั่งฤดู 2017/18 ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ไลป์ซิกข์สามารถเอาชนะบาเยิร์น มิวนิคได้เสร็จ ถึงแม้ผลที่ได้รับจากการแข่งขันจะมิได้มีผลต่อการคว้าชัยชนะลีกของเสือใต้ แม้กระนั้นมันเป็นการรับประกันตั๋วฝ่าศึกยูเอฟ่า แชมเปียนส์ลีกให้กับไลป์สิกข์ แถมยังเสริมความเชื่อมั่นและมั่นใจให้กับชาวไลป์ซิกข์ว่าพวกเขาก็สามารถจัดแจงบาเยิร์นได้อยู่มือเช่นเดียวกัน

และก็และก็มาถึงฤดูปัจจุบันที่ทั้งคู่กลุ่มโคจรมาเจอกันเป็นครั้งที่ 9 เกมนี้ผลลงเอยด้วยการเสมอฉีกแบ่งไปกลุ่มละแต้ม โดยที่เกมการประลองก็ยังเข้มข้นเหมือนปกติตั้งแต่ในตอนครึ่งเวลาแรกที่บาเยิร์นถูกไม่ยอมรับลูกจุดลูกโทษจากการใช้ VAR แม้กระนั้นเป็นไลป์ซิกข์ที่ได้จุดลูกโทษตีเสมอได้ในช่วงต่อเวลาพิเศษครึ่งแรก ทำให้พวกเขายังคงนำเป็นผู้นำฝูงถัดไปด้วยสถิติชนะ 3 เสมอ 1 มี 10 คะแนน เวลาที่บาเยิร์นก็ยังคงตามมาติดๆที่ 8 แต้มรั้งชั้น 4

ถ้าเปรียบเทียบประวัติศาสตร์ของทั้งคู่สมาพันธ์ ก็จัดว่าไลป์ซิกนั้นยังคงห่างชั้นกับบาเยิร์นอยู่มากมายทีเดียว เพราะเหตุว่าเสือใต้นั้นสร้างการบรรลุเป้าหมายมายาวนานจนถึงจะต้องสร้างพิพิธภัณฑสถานเพื่อเก็บถ้วยรางวัลจากการคว้าชัยชนะมาแล้วกว่า 73 รายการ ส่วนประวัติศาสตร์ของไลป์ซิกนั้นยังสั้นนัก ทว่าประวัติศาสตร์ก็ใช่จะสามารถประกันอนาคตได้ คนไหนกันจะทราบว่านี้บางทีอาจเป็นจุดกำเนิดของยุคสมัยใหม่ที่จะมีสมาคมคนใหม่ก้าวขึ้นมาโค่นบัลลังก์แชมป์ของบาเยิร์นมิวนิคได้เสียที...